วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

9GAG in Thai [FaceBook]

Troll face: [[171108522930776]]
ARE YOU FUCKING KIDDING ME: [[143220739082110]]
Not bad Obama: [[169919399735055]]
Me Gusta: [[211782832186415]]
Mother of God: [[142670085793927]]
Cereal Guy: [[170815706323196]]
LOL Face: [[168456309878025]]
NO Guy: [[167359756658519]]
Yao Ming: [[218595638164996]]
Derp: [[224812970902314]]
Derpina: [[192644604154319]]
Forever Alone: [[177903015598419]]
Not Bad: [[NotBaad]]
Fuck yeah: [[105387672833401]]
Challenge accepted: [[100002727365206]]
Okay face: [[100002752520227]]
Dumb bitch: [[218595638164996]]
Poker face: [[129627277060203]]
Okay face: [[224812970902314]]
Socially awkward penguin: [[98438140742]]
Rage face: [[FUUUOFFICIAL]]
Lamp: [[100001256102462]]
No: [[167359756658519]]
MOG: [[142670085793927]]
Feel like a sir: [[168040846586189]]
Forever alone christmas: [[125038607580286]]

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก..^^



เปลือกโลกมิได้เป็นแผ่นเดียวต่อเนื่องติดกันดังเช่นเปลือกไข่ หากแต่เหมือนเปลือกไข่แตกร้าว มีแผ่นหลายแผ่นเรียงชิดติดกันเรียกว่า เพลต (Plate) ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 เพลต เพลตที่มีขนาดใหญ่ ได้แก่ เพลตแปซิฟิก เพลตอเมริกาเหนือ เพลตอเมริกาใต้ เพลตยูเรเซีย เพลตแอฟริกา เพลตอินโด-ออสเตรเลีย และเพลตแอนตาร์กติก เป็นต้น เพลตแปซิฟิกเป็นเพลตที่ใหญ่ที่สุดและไม่มีเปลือกทวีป กินอาณาเขตหนึ่งในสามของพื้นผิวโลก เพลตทุกเพลตเคลื่อนตัวเปลี่ยนแปลงขนาดและรูปร่างอยู่ตลอดเวลา (ดูภาพที่ 1)

            การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกแบ่งได้ดังนี้

ทฤษฎีวงจรการพาความร้อน 
(Convection current theory)


          
กล่าวไว้ว่าการหมุนเวียนของกระแสความร้อนภายในโลก มีลักษณะเช่นเดียวกับการเดือดของน้ำในแก้ว กล่าวคือโลกส่งผ่านความร้อนจากแก่นโลกขึ้นมาสู่ชั้นแมนเทิล ซึ่งมีลักษณะเป็นของไหลที่มีสถานะกึ่งแข็งกึ่งเหลว และผลักดันให้สารในชั้นนี้หมุนเวียนจากส่วนล่างขึ้นไปสู่ส่วนบนส่งผลให้เปลือกโลกซึ่งเป็นของแข็งปิดทับอยู่บนสุดเกิดการแตกเป็นแผ่น (Plate) และเคลื่อนที่ในลักษณะเข้าหากัน แยกออกจากกัน และไถลตัวขนานออกจากกัน

ทฤษฎีทวีปเลื่อน (Continental Drift Theory) 
            
  ในปี ค.ศ.1915 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ Alfred Wagenerได้เสนอสมมติฐานทวีปเลื่อนขึ้น และได้รับการยอมรับในปี ค.ศ.1940 สมมติฐานกล่าวไว้ว่า เมื่อราว 250 ล้านปีก่อน ทวีปต่าง ๆ เคยติดกันเป็นทวีปขนาดใหญ่เรียกว่า พันเจีย (Pangaea) ต่อมามีการเคลื่อนตัวแยกออกจากกัน จนมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน หลักฐานที่เชื่อว่าแผ่นทวีปเคลื่อนที่นี้คือ ในปัจจุบันได้พบชนิดหิน ที่เกิดในสภาวะแวดล้อมเดียวกันแต่อยู่คนละทวีปซึ่งห่างไกลกันมากหินอายุเดียวกัน ที่อยู่ต่างทวีปกันมีรูปแบบสนามแม่เหล็กโลกโบราณคล้ายคลึงกัน และขอบของทวีปสามารถเชื่อมตัวประสานแนบสนิทเข้าด้วยกันได้

ทฤษฎีเปลือกโลกใต้มหาสมุทรแยกตัว (Sea Floor Spreading Theory) 
           
จากปรากฏการณ์การแตกตัวและแยกออกจากกันของแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปและใต้มหาสมุทรสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว การเกิดหมู่เกาะภูเขาไฟ การเกิดแนวเทือกเขากลางมหาสมุทร การขยายตัว และการเกิดใหม่ของมหาสมุทร ทำให้เกิดสมมติฐานและกลายเป็นทฤษฎีนี้ขึ้นเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ เหล่านั้นและการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกต่างๆ


ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (plate Tectonic Theory) 
                เกิดจากการนำทฤษฎีทวีปเลื่อนและทวีปแยกมารวมกันตั้งเป็นทฤษฎีใหม่ขึ้นมาโดยกล่าวไว้ว่า เปลือกโลกทั้งหมดแบ่งออกเป็น แผ่นที่สำคัญ จำนวน 13 แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะมีขอบเขตเฉพาะได้แก่ แผ่นอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยูเรเซีย แอฟริกา อินเดีย แปซิฟิก แอนตาร์กติก ฟิลิปปินส์ อาหรับ สกอเทีย โกโก้ แคริเบียน และนาซก้าแผ่นเปลือกโลกทั้งหมดไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่จะมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลาใน แบบ ได้แก่การเคลื่อนที่เข้าหากัน แยกออกจากกัน และไถลตัวขนานออกจากกันซึ่งผลของการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกทำให้เกิดปรากฎการณ์ต่าง ๆ ขึ้น เช่น แผ่นดินไหว เทือกเขา ภูเขาไฟ และกระบวนการเกิดแร่และหิน

ลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
1) รอยต่อที่แผ่นเปลือกโลกจะแยกจากกัน (Divergent Boundary) เมื่อแมกม่าในชั้นแอสทีโนสเฟียร์ดันตัวขึ้น ทำให้เพลตจะขยายตัวออกจากกัน เกิดขึ้นตรงรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก แผ่น ที่อยู่ใต้มหาสมุทรมากกว่าบนทวีป แนวเพลตแยกจากกันส่วนมากเกิดขึ้นในบริเวณสันกลางมหาสมุทร เช่น รอยต่อของแผ่นอเมริกากับแผ่นยูเรเซียน ที่เทือกเขาที่มีการแยกตัว (Spreading Ridge) หรือรอยต่อที่แยกออกจากกัน จะเกิดแผ่นดินไหวที่ระดับตื้นตามแนวแกนการแยกตัวเท่านั้น และเกิดกลไกการแยกตัวขึ้น แผ่นดินไหวที่เกิดจากลักษณะการแยกตัวมักจะมีขนาดต่ำกว่า ริกเตอร์

2) รอยต่อที่แผ่นเปลือกโลกจะเคลื่อนที่ชนกันและเกยกัน (Convergent Boundary) มี แบบ คือ
2.1) แผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทร แผ่นมาชนกัน (Collision) โดยขอบแผ่นเปลือกโลกในแต่ละแนวที่มีความหนาแน่นสูงกว่าจะสอดมุดตัว (Subduction Zones)ลงไปใต้อีกแผ่นเปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่งจนถึงชั้นแมนเทิล มีการเลื่อน ขบ กดและดัน ซึ่งกันและกัน ยังผลให้มีการปรับตัวตลอดเวลา จากนั้นจะหลอมละลายกลายเป็นหินหลอมละลายที่มีการสะสมพลังงานแรงดันมหาศาลภายในดันตัวควบคู่กันไปขึ้นมาตามชั้นหินของเปลือกโลก หากพลังงานนั้นสูงมากจนถึงระตับก็จะมีการปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งในส่วนที่ไม่แข็งแรงที่อยู่ด้านบนเกิดเป็นปล่องภูเขาไฟ และแนวตามขอบแผ่นเปลือกโลกเป็นร่องลึกทางยาวที่เรียกว่า Trench

2.2) แผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นทวีป แผ่นมหาสมุทรที่หนักกว่าจะมุดลงใต้แผ่นทวีปและหลอมละลายกลายเป็นหินหลอมละลายและถูกดันออกมาตามรอยแยกในชั้นหินของแผ่นทวีป เกิดเป็นแนวภูเขาไฟ

2.3) แผ่นทวีปชนกับแผ่นทวีป ทำให้เพลตที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าเกิดการโก่งตัวเกยสูงขึ้นกลายเป็นเทือกเขา เช่นเทือกเขาหิมาลัย เกิดจากการชนกันของเพลตอินเดียและเพลตเอเชีย เทือกเขาแอลป์ (Alpsในทวีปยุโรป เทือกเขาร็อกกี้ (Rocky) และเทือกเขาแอปปาเลเชียน (Appalachian) ในทวีปอเมริกาเหนือ เกิดจากการชนกันของเพลตอเมริกาเหนือกับเพลตแอฟริกา และเทือกเขาภูพานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย


แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งตั้งแต่ใกล้ผิวโลกไปจนถึงความลึกหลายร้อยกิโลเมตร เนื่องจากแผ่นเปลือกโลกที่มุดตัวลงไปมีความเย็นจนทำให้เกิดการเปราะแตกออกได้ที่ความลึกถึง 700 กิโลเมตร รอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนที่เข้าหากันเป็นตำแหน่งที่เกิดแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เหตุการณ์บางครั้งที่เกิดขึ้นที่บริเวณแผ่นเปลือกโลกมุดตัวที่ อลาสกาและชิลีทำให้แผ่นดินไหวมีขนาดมากกว่า ริกเตอร์

3) รอยต่อที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่สวนกัน (Transform Boundary) เมื่อแผ่นเปลือกโลก แผ่นเคลื่อนที่สวนกัน ทำให้เกิดเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ขึ้น มักเกิดขึ้นในบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทร แต่บางครั้งก็เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่ง หากเปลือกโลกเคลื่อนที่กระทบกันอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน และเกิดแผ่นดินไหวได้ เช่น

                รอยเลื่อน San Andrea’s ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ ตัวอย่างของการเคลื่อนที่ผ่านกัน แยกแผ่นเปลือกโลก Pacific ออกจากแผ่นเปลือกโลก North America ในขณะที่เคลื่อนผ่านกัน แผ่นเปลือกโลกส่วนใหญ่จะเลื่อนผ่านกันทางด้านข้าง ทำให้เกิดการทรุดตัวและยกตัวของพื้นดินน้อยกว่าการเคลื่อนที่ออกจากกันหรือเข้าหากัน จุดสีเหลืองข้างล่างแสดงตำแหน่งที่เกิดแผ่นดินไหวตามขอบของระบบรอยเลื่อนนี้ที่บริเวณอ่าวซานฟรานซีสโก

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

Doodle God

เมื่อตอนพระเจ้า Doodle God สร้างโลก พระเจ้า Doodle God มีเพียงธาตุพื้นฐาน 4 ธาตุเท่านั้น นั่นคือ ดิน น้ำ ลม และ ไฟ ซึ่งสามารถใช้สร้างโลกพื้นฐานที่รกร้างว่างเปล่าได้เท่านั้น พระเจ้าเลยมีความคิดที่จะนำธาตุทั้ง 4 มาผสมกันเพื่อก่อกำเนิดธาตุใหม่, ทรัพยากร, สิ่งมีชีวิต, สิ่งปลูกสร้าง เพื่อเพิ่มสีสันให้กับโลกใบใหม่Doodle God

ในเกมส์นี้เราจะได้เล่นเป็น Doodle God ซึ่งจะต้องทำการผสมธาตุต่างๆ เพื่อให้เกิดธาตุใหม่ เมื่อเราได้ธาตุใหม่แล้ว เราก็ยังสามารถใช้ธาตุใหม่ที่ได้นำไปผสมกับธาตุอื่นๆ ที่มีอยู่ได้อีกด้วย ในเกมส์จะมีธาตุที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมด 115 ธาตุด้วยกัน แต่วิธีการสร้างแต่ละธาตุนั้นไม่ได้จำกัดว่ามีเพียงวิธีเดียวทั้งนั้น การเล่นเกมส์นี้จึงเป็นการทดลองผสมธาตุไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ธาตุใหม่
ธาตุแต่ละชนิดจะถูกจัดหมวดหมู่ไว้ เราสามารถผสมธาตุได้โดยคลิ๊กที่กลุ่มธาตุที่ต้องการผสมเพื่อเปิดดูธาตุที่อยู่ในกลุ่มนั้นทั้งหมด หลังจากนั้นก็เลือกธาตุที่ต้องการใช้ผสมตัวแรก และใช้วิธีเดียวกันเลือกธาตุตัวที่สอง เมื่อเลือกธาตุทั้งสองได้แล้ว หากธาตุทั้งสองสามารถผสมกันได้ เกมส์ก็จะแสดงผลลัพธ์ให้เราดูว่าได้ธาตุชนิดใด พร้อมทั้งแสดงคำคมเกี่ยวกับธาตุใหม่นี้ด้วย แต่ถ้าหากธาตุทั้งสองไม่สามารถผสมกันได้ ธาตุทั้งสองก็จะสั่นเป็นการปฏิเสธการผสม ตัวเกมส์มีระบบบอกใบ้ให้ด้วย ซึ่งเราสามารถคลิ๊กที่ไอคอนรูปหลอดไฟ แต่ระบบบอกใบ้นี้จะมีการกำหนดระยะเวลาความถี่ในการใช้ไว้ ฉะนั้นก็ควรจะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้นครับ

เฉลย เกมส์ Doodle God
1 Airplane = Air + Car
2 Alcohol = Fire + Water
3 Alcoholic = Human + Alcohol
4 Alcoholic = Human + Vodka
5 Alcoholic = Human + Beer
6 Ash = Tree + Fire
7 Ash = Wood + Fire
8 Ash = Dragon + Hunter
9 Assassin = Human + Poisoned Weapon
10 Bacteria = Swamp + Life
11 Beast = Earth + Lizard
12 Beer = Alcohol + Wheat
13 Beetle = Earth + Worm
14 Bird = Egg + Air
15 Blood = Dinosaur + Human
16 Blood = Beast + Human
17 Boat = Wood + Water
18 Boiler = Metal + Steam
19 Book = Feather + Paper
20 Bread = Dough + Fire
21 Bricks = Clay + Fire
22 Butterfly = Air + Worm
23 Car = Oil + Cart
24 Cart = Wood + Wheel
25 Cement = Clay + Limestone
26 Ceramics = Clay + Human
27 Chariot = Beast + Cart
28 Cigarette = Paper + Tobacco
29 Clay = Swamp + Sand
30 Clothes = Fabric + Human
31 Coal = Tree + Fire
32 Coal = Wood + Fire
33 Concrete = Water + Cement
34 Corpse = Fire + Human
35 Corpse = Human + Poison
36 Demigod = Wizard + Energy
37 Dinosaur = Earth + Egg
38 Dolphin = Fish + Beast
39 Domestic Animal = Human + Beast
40 Dough = Water + Flour
41 Dragon = Dinosaur + Fire
42 Dust = Air + Earth
43 Egg = Life + Stone
44 Electricity = Metal + Energy
45 Fabric = Tools + Wool
46 Feather = Bird + Hunter
47 Fern = Moss + Swamp
48 Fertiliser = Domestic Animal + Grass
49 Field = Earth + Tools
50 Fire = Stone + Stone
51 Firearm = Weapon + Gunpowder
52 Fish = Plankton + Bacteria
53 Flour = Stone + Wheat
54 Frigate = Ship + Fabric
55 Ghost = Life + Ash
56 Ghoul = Zombie + Corpse
57 Glass = Fire + Sand
58 Golem = Clay + Life
59 Grass = Earth + Moss
60 Gun Powder = Saltpeter + Sulphur
61 Hero = Warrior + Dragon
62 House = Bricks + Concrete
63 Human = Life + Beast
64 Hunter = Human + Weapon
65 Hut = Stone + Human
66 Lava = Fire + Earth
67 Life = Energy + Swamp
68 Limestone = Shell + Stone
69 Lizard = Egg + Swamp
70 Locomotive = Steam Engine + Cart
71 Meat = Human + Domestic Animal
72 Meat = Beast + Human
73 Meat = Bird + Hunter
74 Metal = Fire + Stone
75 Milk = Human + Domestic Animal
76 Milk = Domestic Animal + Grass
77 Moss = Swamp + Weeds
78 Mushroom = Earth + Weeds
79 Oil = Water + Coal
80 Paper = Tools + Reed
81 Pheonix = Bird + Fire
82 Plankton = Bacteria + Water
83 Poison = Tools + Scorpion
84 Poisoned Weapon = Poison + Weapon
85 Reed = Swamp + Grass
86 Saltpeter = Limestone + Fertiliser
87 Sand = Water + Stone
88 Scorpion = Beetle + Sand
89 Seeds = Grass + Grass
90 Seeds = Life + Sand
91 Sex = Human + Human
92 Shell = Plankton + Stone
93 Ship = Wood + Boat
94 Skyscraper = House + Glass
95 Snake = Swamp + Worm
96 Snake = Sand + Worm
97 Steam = Water + Air
98 Steam Engine = Boiler + Coal
99 Steam Ship = Ship + Steam Engine
100 Stone = Air + Lava
101 Storm = Air + Energy
102 Sulphur = Bacteria + Swamp
103 Swamp = Water + Earth
104 Thunderbird = Bird + Storm
105 Tobacco = Fire + Grass
106 Tools = Human + Metal
107 Treant = Tree + Life
108 Tree = Earth + Seeds
109 Turtle = Egg + Sand
110 Vampire = Human + Blood
111 Vodka = Alcohol + Water
112 Warrior = Weapon + Hunter
113 Weapon = Tools + Metal
114 Weeds = Life + Water
115 Werewolf = Beast + Vampire
116 Whale = Beast + Water
117 Wheat = Seeds + Field
118 Wheel = Wood + Tools
119 Wizard = Human + Energy
120 Wood = Tree + Tools
121 Wool = Human + Domestic Animal
122 Wool = Beast + Hunter
123 Worm = Bacteria + Swamp
124 Worm = Plankton + Earth
125 Zombie = Life + Corpse